วีธีการสั่งซื้อและวิธีการชำระเงิน

วิธีการสั่งซื้อ

1.  สั่งซื้อทางโทรศัพท์ เบอร์ 083-645-7687

2.  สั่งซื้อผ่านทางอีเมล์ payonyathip@hotmail.com

วิธีการชำระเงิน

โอนเงินผ่านทางธนาคารกรุงไทยเลขที่ 060-04-472-929

เกี่ยวกับสินค้า

ชุดเดรส
รหัส DD201
ราคา  199  บาท

ชุดเดรส
รหัส DD203
ราคา  199  บาท

ชุดเดรส
รหัส DD205
ราคา  199  บาท

ชุดเดรส
รหัส DD202
ราคา  199  บาท

ชุดเดรส
รหัส DD204
ราคา  199  บาท

ชุดเดรส
รหัส DD206
ราคา  199  บาท

เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะกับรูปร่าง

สาว ๆ น้อยคนนักที่จะพึงพอใจในรูปร่างของตัวเองไปซะทุกส่วน
บางคนชอบบ่นว่าต้นขาใหญ่
บางคนบ่นว่าเอวหนา
บางคนก็ว่าหน้าอกเล็ก หรือใหญ่เกินไป
      ก็แน่นอนล่ะ ไม่ใช่นางแบบ แล้วก็ไม่อยากจะพึ่งมีดหมอ
แต่เรื่องสวยน่ะ อยากอยู่แล้ว
ดังนั้น เรามาดูวิธีการเลือกเสื้อผ้าลดจุดด้อยของตัวเองจะดีกว่าค่ะ
     เริ่มกันที่สาวอกใหญ่ ก่อนก็แล้วกัน แหม ๆ บางคนชอบมานั่งกลุ้มเรื่องนี้ ในขณะที่อีกหลาย ๆ คนพากันอิจฉา
จริง ๆ แล้วเรื่องหน้าอกใหญ่เกินตัวเนี่ย เรามีวิธีแก้ไขให้ดูดี โดยการเลือกเสื้อผ้าค่ะ
นั่นก็คือ เสื้อคอคว้านลึกน่ะ อย่าไปใส่ เพราะมันยิ่งเป็นการเน้น
เนื้อผ้าก็สำคัญนะคะ ให้เลือกผ้านิ่มพริ้ว เพราะถ้าใช้ผ้าแข็งจะทำให้ดูหนา อึดอัดค่ะ
และถ้าจะใส่ผ้าลาย ก็อย่าไปเลือกลายดอกใหญ่นะคะ เพราะจะยิ่งเป็นการเน้นช่วงอกให้ดูใหญ่ขึ้นมาอีก
    ส่วนคนร่างผอมเล็ก ก็ควรจะเลือกเสื้อผ้าสีอ่อนค่ะ แต่ถ้าร่างข้างบนเล็ก แต่ดันมีพุง สะโพกผาย
อันนี้นอกจากจะต้องพึ่งพาสเตย์แล้ว ก็ยังต้องเลือกเสื้อที่มันคลุมลงมาถึงระดับสะโพกด้วย
ซึ่งถ้าหากคุณเป็นคนสูง ก็ดูจะไม่เป็นปัญหาอะไรกับเรื่องเสื้อตัวยาว
แต่ถ้าตัวเตี้ยด้วย ก็ต้องเลือกเสื้อที่มันไม่คลุมลงมาทั้งยางทั้งหลวมนะคะ เพราะจะทำให้ดูตลก
    มาดูสาวร่างใหญ่กันบ้างค่ะ ที่ว่าสาวร่างใหย่นั้น หมายถึงว่า ทั้งสูง ทั้งหนาเลยนะคะ
ถ้ารูปร่างของคุณเป็นแบบนี้ ต้องใส่เสื้อสีเข้มค่ะ ถ้าหากจะสวมกระโปรงก็อย่างไปเลือกกระโปรงบาน
รวมทั้งความยาวของกระโปรงก็ควรจะให้คลุมเข่านะคะ เพราะถ้าใส่สั้น จะยิ่งดูหนักเหมือนเสาหลักเลยหละ
ส่วนเสื้อนั้น ก็ควรจะเป็นเสื้อที่ปล่อยชายยาวลงมาถึงสะโพก ยิ่งถ้ามีลายทางยาว จะทำให้ดูโปร่งเพรียวยิ่งขึ้นค่ะ
จะให้ดีอาจจะหาเข็มขัดเส้นเล็ก ๆ มาคาดหลวม ๆ ด้วยก็ได้ ใช้ได้กับคนที่ไม่มีเอวค่ะ
    สุดท้ายสำหรับสาวเจ้าเนื้อนะคะ คุณไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อสีทึม ๆ ตลอดหรอกค่ะ
สีแรง ๆ อย่างสีแดงสด หรือสีที่ทำให้ดูแล้วร่าเริงสดใส ก็สามารถใส่ได้ขอแค่มั่นใจลและเลือกให้เหมาะเท่านั้นเอง
อย่างตัวเสื้อนั้น ควรคว้านคอกว้าง ช่วงตัวบนจะได้ดูไม่ตัน
และให้มีความยาวเลยลงมาพอดีต้นขา อาจจะผ่าเล้กน้อย อย่าไปเลือกเสื้อผ้าที่เน้นช่วงเอวนะคะ
ส่วนกางเกงหรือกระโปรงควรจะเป็นสีเข้มเฉดเดียวกับเสื้อหรือสีกลาง ๆ อย่างเช่น น้ำเงิน เทา น้ำตาล เป็นต้นค่ะ

ที่มา  www.samunpai.com

เลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับสีผิว

หากกำลังเลือกหาเสื้อผ้าใหม่ วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีการเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เข้ากับสีผิวมาแนะนำ...

-ผิวขาวซีด  สีผิวที่ขาวจนเกินไปจนแลดูเหมือนสุขภาพไม่แข็งแรง ควรเลือกสีโทนค่อนข้างเข็ม เพื่อขับสีผิวให้ดูเข้มขึ้นเล็กน้อย เช่น สีแดงเข้ม สีเหลืองอมน้ำตาล สีน้ำตาลไหม้  และ สีเขียวเข้ม

-ผิวขาวอมชมพู ควรเลือกเป็นโทนที่อ่อนๆ อย่าง สีฟ้าอมเขียว สีฟ้าอ่อน สีชมพูอ่อน สีส้ม เป็นต้น เพราะโทนสีเหล่านี้จะช่วยทำให้สีผิวของคุณดูเด่น

-ผิวสองสี หรือ ผิวสีน้ำผึ้ง สาวผิวสีนี้ค่อนข้างดูเซ็กซี่มีเสน่ห์อยู่ในตัว จึงควรเลือกเสื้อผ้าที่มีโทนสีค่อนข้างอ่อน โดยเฉพาะสีผสมต่างๆ ที่ดูไม่ร้อนแรงหรือเย็นตาจนเกินไป เช่น สีน้ำตาลอมแดง สีเขียวอมฟ้า สีชมพูอมส้ม สีชมพูหม่น

-ผิวคล้ำ ดำ หรือ แทน  ควรเลือกใส่เสื้อผ้าสีโทนกลางๆ ไม่อ่อนและไม่สดจนเกินไป ควรเลือกโทนสีที่ค่อนข้างเข้ม เช่น สีกรมท่า สีน้ำตาลเข้ม สีฟ้า สีม่วง สีเทา สีเขียวเข้ม เพราะสีเสื้อโทนนี้จะช่วยให้ผิวของคุณดูกลมกลืนไปกับเสื้อผ้า และยังทำให้ดูขาวขึ้น

ไม่ว่าคุณจะสีผิวแบบไหน ก็สามารถเลือกใส่เสื้อผ้าให้สวยได้.

ที่มา globalfashionreport

สไตล์การแต่งตัวของสาวๆ

วันนี้มาดูการแต่งตัวของสาวๆแต่ละไสตล์กัน

สไตล์แรก คือสาวเปรี้ยวปนเซ็กซี่ คือ เป็นสาวมั่นใจที่ชอบการแต่งตัว ออกแนวเซ็กซี่เล็กน้อย

เช่น ใส่สายเดี่ยว เกาะอก เปิดไหล่ เปิดหลัง เสื้อผ้าคอลึก เสื้อผ้าคอกว้าง กระโปรงสั้น เสื้อรัดรูป มีเปรี้ยวๆ ใส่เสื้อกล้าม เดรสสีสด สีดำทั้งชุด
สไตล์ที่สอง คือ สาวหวานๆ ออกแนวชอบใส่เสื้อผ้าแฟชั่นเกาหลีออกแนวเรียบร้อย คุณหนูๆ สีหวาน สดใส่ หรือจะเป็นเดรสน่ารักๆ

สไตล์ที่สาม คือ สาวฮ้าว ชอบแต่งตัวคล้ายๆผู้ชาย กางเกงยีนส์ เสื้อผ้าตัวใหญ่ โคร่งๆ


สไตล์ที่สี่ คือ สาวสบายๆ คือชอบใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ กางเกงสามส่วน ใส่สบายๆ


แต่ทั้งสี่สไตล์ สาวๆ ก็นำมามิกซ์กันได้ แล้วแต่โอกาสและกาลเทศะ  เช่น ถ้าไป ต่างจังหวัด ก็อาจจะใส่กางเกง เสื้อยืด ใส่สบายๆ เพราะต้องเดินทาง


ถ้าไปงานกลางคืน ก็ใส่ออกเปรี้ยวปนเซ็กซี่เล็กน้อย หรือออกแนวไฮไซ หรูๆ


ถ้าไปงานเลี้ยงแบบเพื่อน ก็เปรี้ยวเล็กน้อย ถ้างานเลี้ยงของญาติผู้ใหญ่ ก็ใส่เดรสออกแนวหวานๆ
 หรือเสื้อผ้าแฟชั่นเรียบร้อยดูเหมาะสม ไม่หวือหวาเกินไป  แค่นี้ ทั้ง 4 สไตล์ ก็นำมามิกซ์และแมทกันได้สบายค่ะ

วิธีการวัดไซร์เสื้อผ้า

เรียนรู้วิธีง่ายๆ ในการวัดไซส์รูปร่างซักนิด สะดวกช็อปปิ้งเสื้อผ้าคนอ้วนง่ายๆ ขึ้นเป็นกองค่ะ
ปัจจุบัน มีทางเลือกให้สาวๆ ไซส์ใหญ่อย่างเรา สวยกันถึงบ้าน ด้วยร้านออนไลน์เก๋ๆ แค่เข้าเว็บไซท์ก็สวยได้ อย่างไรก็ตาม ในการสั่งซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นทางออนไลน์ (โดยเฉพาะ เสื้อผ้าคนอ้วน) จำเป็นที่เราต้องทราบข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเราซักนิด เช่น ขนาดรอบอก เอว กรณีการสั่งซื้อเสื้อแฟชั่น หรือรอบสะโพก กรณีการสั่งซื้อกางเกง กระโปรง เลกกิ้ง ฯลฯ เพื่อเปรียบเทียบกับขนาดของเสื้อผ้าที่แจ้งไว้บนหน้าเว็บไซท์ค่ะ

เริ่มต้นเลย ให้หาสายวัดมาวัดรอบอก เอว สะโพก ของเราแบบพอดีๆ ไม่ต้องเผื่อ โดยเกณฑ์คือ รอบอก วัดจนถึงระดับยอดอก ส่วนที่ยื่นสุด (ไม่ใช้ขนาดของเสื้อใน เนื่องจากเป็นการวัดคัพของหน้าอก) ส่วนเอว สะโพก วัดตามจริงค่ะ
กรณีการเลือกซื้อ กระโปรง หรือกางเกง : ให้ดูขนาดของเอว และสะโพกประกอบกัน เนื่องจากบางคนอาจมีเนื้อบริเวณสะโพกมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาใส่เข้าเอว แต่ติดสะโพก กรณีนี้แนะนำให้เผื่อขนาดไว้ประมาณ 2 นิ้ว เช่น สะโพก 44 นิ้ว อาจเลือกขนาดของกางเกงที่มีขนาดสะโพกที่ 46 นิ้ว เพื่อให้ใส่ได้สบาย ไม่อึดอัดค่ะ
กรณีการเลือกซื้อ ชุดแซก เสื้อแฟชั่น : แนะนำระยะไว้ที่ 4 นิ้วจากขนาดไซส์จริงของเราค่ะ แต่เฉพาะกรณีที่เสื้อตัวนั้นไม่ยืดแล้ว แต่หากกรณีที่สามารถยืดได้อีก แนะนำไม่ให้ระยะยืดแตกต่างมากเกินไปค่ะ เช่น หากรอบอกอยู่ที่ 42 นิ้ว ควรเลือกสวมเสื้อที่ขนาดรอบอกอยู่ที 46 นิ้ว (42 + 4 นิ้ว) โดยหาก เสื้อสามารถยืดได้ ก็ควรยืดได้อยู่ที่ประมาณ 46-48 นิ้ว ไม่เกินนั้น เพื่อไม่ให้หลวมเกินไปค่ะ
หมายเหตุ : ระยะที่แนะนำเป็นขนาดของระยะมาตรฐาน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความต้องการใส่เสื้อคับ-หลวมของสาวๆ แต่ละคน เช่น หากต้องการให้เสื้อฟิตเข้ารูป อาจเผื่อที่ 2 นิ้ว หรือบางคนชอบใส่เสื้อหลวม อาจเผื่อไปถึง 6 นิ้ว เป็นต้นค่า